นายทวิต ราษี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูล จ.สุโขทัย

ผอ.ทวิต ราษี มีประสบการณ์บริหารโรงเรียนขนาดเล็กที่มีระดับชั้นปฐมวัยมานานโดยมีความตั้งใจในการพัฒนาอนุบาลให้มีคุณภาพเพราะเป็นการสร้างรากฐานให้เด็กไปจนโต และมีความสนใจในเรื่องพัฒนาการเด็ก เมื่อเข้าร่วมอบรมเรื่อง EF จากสถาบัน RLG ก็ได้เข้าใจว่าพัฒนาการของเด็กนั้นเกิดจากการทำงานของสมอง และยังเห็นว่าเรื่อง EF มีความสอดคล้องกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยที่โรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูลดำเนินการอยู่ จึงสนใจที่จะขับเคลื่อนความรู้ EF ในโรงเรียน(ที่เพิ่งเข้ามาบริหาร) ผอ.ทวิตนำความรู้ EF มาถ่ายทอดแก่ครู ให้ครูนำความรู้ EF บูรณาการกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบโครงงาน เพียงครูเปลี่ยนวิธีการ ไม่ใช่ครูสั่งให้เด็กทำ แต่ให้เด็กได้คิดได้ทำด้วยตัวเอง โดยครูคอยตั้งคำถามกระตุ้นเด็กให้คิดได้หาคำตอบ นอกจากนี้ผอ.ทวิตยังได้ขยายความรู้ EF แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดและศธจ. ให้ทราบถึงความสำคัญของการพัฒนาทักษะสมอง EF เสนอให้พัฒนาครูปฐมวัยทั้งจังหวัดสุโขทัย

ในปี 2565 ผอ.ทวิตจะสนับสนุนให้ครูใช้ความรู้ EF เขียนแผนการเรียนการสอนเต็มรูปแบบ และคิดจะขยายความรู้ EF ไปสู่พ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อให้มีการพัฒนาเด็กที่สอดคล้องกับที่โรงเรียนด้วย

การขับเคลื่อน EF ที่เป็นรูปธรรม

  • ขยายความรู้ EF แก่ครูปฐมวัยในโรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูล
  • แลกเปลี่ยนปรับวิธีคิดของครูให้เข้าใจเรื่องการพัฒนาสมอง EF
  • ให้ความรู้ผู้ปกครองในการประชุมผู้ปกครองก่อนเปิดภาคเรียนให้เข้าใจถึงการพัฒนาทักษะสมองEF สำหรับเด็กปฐมวัย

การสร้าง/ประสานเครือข่าย

เสนอองค์การบริหารส่วนจังหวัดและศธจ.จังหวัดสุโขทัย ให้ทราบถึงความสำคัญของการพัฒนาทักษะสมอง EF สำหรับเด็กปฐมวัย เสนอให้พัฒนาครูปฐมวัยทั้งจังหวัดสุโขทัย

การติดตาม/นิเทศ/coaching

คอยแนะนำช่วยเหลือครูในการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะ EF

การต่อยอด/นวัตกรรม/ วิจัย

จะสนับสนุนให้ครูใช้ความรู้ EF เขียนแผนการเรียนการสอนเต็มรูปแบบ และคิดจะขยายความรู้ EF ไปสู่พ่อแม่ผู้ปกครอง

การแก้ปัญหา

  • การยอมรับของครู ใช้การสั่งการไม่ได้ ครูจะต่อต้าน โดยเฉพาะทางด้านวิชาการที่ครูยึดหลักสูตรแกนกลางเป็นหลัก ต้องให้ครูได้ร่วมรับรู้เข้าใจ ผอ.ชี้ให้ครูเห็นข้อดี รับฟังความคิดเห็น แล้วนำมาปรับเป็นแนวนโยบายของโรงเรียน  ส่วนผู้ปกครอง ต้องยกงานวิจัยมาอ้างอิงให้เกิดความเชื่อถือ เช่นงานวิจัยที่บอกว่าการเร่งอ่านเขียนจะส่งผลเสียต่อเด็กอย่างไร
  • ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กไม่ให้ความสำคัญกับเด็กปฐมวัย ไม่จ้างครูปฐมวัยโดยตรง หรือให้ครูปฐมวัยไปช่วยงานประถมและงานอื่นๆ ทำให้อนุบาลไม่มีคุณภาพ ซึ่งส่งผลให้เด็กไปเรียนต่อโรงเรียนเอกชนหรือโรงเรียนในเมือง เด็กลดจำนวนลงเรื่อยๆ จนโรงเรียนไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้  ผอ.ทวิตกลับมองว่าอนุบาลเป็นจุดขายของโรงเรียนและมีความสำคัญมาก หากโรงเรียนพัฒนาอนุบาลได้ดี พ่อแม่ผู้ปกครองก็อยากให้ลูกเรียนต่อ รวมทั้งเด็กเองก็ไม่อยากย้ายไปเรียนที่อื่น จึงทุ่มเทให้กับการพัฒนาเด็กปฐมวัย เคยทำสำเร็จจนนักเรียนทั้งโรงเรียนมียอดเพิ่มขึ้นมาแล้ว

ผลสัมฤทธิ์ / การเปลี่ยนแปลง

  • ครูเปลี่ยนวิธีการ จากสั่งให้เด็กทำ สอนให้คิดตาม เป็นกระตุ้นให้เด็กคิด ให้เด็กทำด้วยตัวเอง  ครูสะท้อนว่าใจเย็นมากขึ้น ฟังเด็กมากขึ้น ไม่ตัดสินเด็กจากสิ่งที่เด็กทำ ไม่ประเมินเด็กตรงๆ ว่าทำได้หรือไม่ได้ ผ่านหรือไม่ผ่าน
  • เด็กปฐมวัยในโรงเรียนมีพัฒนาการที่ดีขึ้นและมีทักษะ EF
  • ได้รับเสียงสะท้อนจากผู้ปกครองที่เข้าใจเรื่อง EF และพัฒนาลูกปฐมวัยที่บ้านเชื่อมโยงกับการพัฒนาที่โรงเรียนว่าเกิดสัมพันธภาพที่ดีระหว่างผู้ปกครองกับครูในการร่วมมือกันพัฒนาลูกหลาน
  • ตนเองมีความสุขที่ได้ถ่ายทอดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับครูผู้ปกครอง ภาคภูมิใจที่เห็นเด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้นและมี EF