พฤติกรรมและผลลัพธ์ของ Growth Mindset
ความท้าทายทำให้คนที่มีความคิดแบบ Growth Mindset สร้างโอกาสที่จะฝ่าฟันไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ ยิ่งเกิดภาวะที่หดหู่ใจมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งมีพลังในการต่อสู้และพยายามเขียนชะตากรรมของตนด้วยสองมือของตนมากเท่านั้น คนที่มี Growth Mindset พยายามทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้เสมอ คนเหล่านี้กระหายการเรียนรู้ กระหายหาความรู้ ใช้ข้อมูลที่ได้มาลงมือสร้างสรรค์สิ่งต่างๆอย่างต่อเนื่อง
เราจะได้เห็นว่า ครูที่มี Growth Mindset จะมุ่งถามตนเองว่าจะหาวิธีอย่างไร สอนให้ลูกศิษย์เก่งขึ้น เชื่อมั่นว่านักเรียนของตนสามารถเรียนรู้ พัฒนาได้ จะเอาใจใส่ ให้เวลากับนักเรียน คิดหาวิธีการต่างๆ สร้างการเรียนรู้ให้นักเรียนเข้าใจ โดยเฉพาะเอาใจใส่นักเรียนที่เรียนอ่อนให้ได้พัฒนา สนับสนุนให้นักเรียนมีกำลังใจฝึกฝนตนเอง ตระหนักพบว่า แท้ที่จริงตนเองไม่ได้ “โง่” สามารถเรียนรู้ และทำคะแนนได้ดีขึ้นเสมอเมื่อมีความพยายาม
อีกทั้งในงานวิจัย ก็พบพฤติกรรมที่แสดงออกถึงกรอบความคิดทั้ง Growth Mindset และ Fixed Mindset ที่ต่างกัน ในเด็กที่ยังเล็กมาก เด็กที่มี Growth Mindset เมื่อพบว่าทารกอีกคนกำลังร้องไห้ เขาจะแสดงอาการพยายามช่วยเหลือ แต่เด็กที่มี Fixed Mindset จะแสดงอาการรำคาญ
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นของ Growth Mindset
เมื่อพิจารณาผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากกรอบความคิดและพฤติกรรม นักวิจัยทีม ดร.คารอล เอส ดเว็ค แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด พบว่าคนที่มี Growth Mindset ประสบความสำเร็จมากกว่าจากความสามารถในการขุดพละกำลังทั้งหมดที่ตนมี ทุ่มเททำงานจนบรรลุเป้าหมายในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพและสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ บุคคลระดับโลกจำนวนมากเป็นตัวอย่างความสำเร็จที่เกิดจากความพยายาม เช่น
โธมัส อัลวา. เอดิสัน นักประดิษฐ์ชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงระดับโลก ประสบความล้มเหลวมานับพันๆครั้ง แต่ไม่เคยเลิกล้มความตั้งใจในการทดลอง คำกล่าวอมตะของเขาคือ “ผมไม่ได้ล้มเหลว ผมแค่ค้นพบวิธีที่ไม่ได้ผล 10,000 วิธีเท่านั้นเอง” เขาจึงได้สิ่งประดิษฐ์ขึ้นมามากมายมอบให้แก่โลก
ชาร์ล ดาร์วิน ทุ่มเทศึกษาค้นคว้ามากกว่าครึ่งชีวิตในการทำผลงานชิ้นเอก “The Origin of Species” เขาชี้ให้เห็นว่า “ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่แข็งแรงที่สุดที่อยู่รอดได้ แต่เป็นเผ่าพันธุ์ที่ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้ต่างหาก”
โมฮัมหมัด อาลี ซึ่งเป็นอดีตยอดนักมวยชาวอเมริกันที่ได้รับการยกย่องให้ เป็นแชมป์โลกตลอดกาลในรุ่นเฮฟวีเวทโดยสมาคมมวยโลก ในปี 2554 เป็นอีกตัวอย่างของความพยายาม ศึกษาคู่ต่อสู้จนได้รับชัยชนะ ในการชกหลายครั้งดูเหมือนว่าโมฮัมหมัดไม่น่าจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้สุด โหดได้ แต่โมฮัมหมัดเป็นคนที่เรียนรู้ และพยายามพัฒนาตนเองตลอดเวลา พยายามศึกษาคู่ต่อสู้จนรู้จุดอ่อนจุดแข็งและเอาชนะได้ในที่สุด เป็นต้น
หลุยส์ เกิร์สเนอร์ (Lou Gerstner) ประธานบริหารของบริษัท IBM ที่เข้ารับตำแหน่งในขณะที่บริษัทกำลังประสบวิกฤติใกล้ล้มละลาย สภาพแวดล้อมในการทำงานเต็มไปด้วย fixed Mindset บริษัทต้องสูญเสียพลังงานและเวลาไปกับความขัดแย้งภายใน แทนที่จะทุ่มเทพลังงานและเวลาไปกับการให้บริการลูกค้าและทำงานเป็นทีม ในขณะที่บริษัทไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ทุกคนในบริษัทกลับคิดว่าตนได้ทำดีที่สุดแล้ว
ภายใต้วิธีคิดแบบ Growth Mindset หลุยส์ได้ทำลายลำดับชั้นของบริษัทและเน้นการทำงานเป็นทีม โดยให้รางวัล พนักงานที่สนับสนุนเพื่อนร่วมงาน เขายังเปิดเส้นทางการสื่อสารทั่วทั้งบริษัท ให้สถานะของคนในบริษัทอยู่ ในระดับเดียวกัน ซึ่งทำให้พนักงานสามารถสื่อสารถึงเขาได้โดยตรง ทำให้เขาสามารถติดต่อกับพนักงานทุกคนได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในเวลาเพียงสั้นๆ เขาสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานใหม่ อาศัยการทำงานเป็นทีมและการพัฒนา เปลี่ยนจากความสำเร็จของแต่ละบุคคลและไปสู่การพัฒนาร่วมกัน และสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนให้กับ IBM ได้
ไมเคิล จอร์แดน (Michael Jordan) ผู้ยิ่งใหญ่ระดับโลกแห่งวงการบาสเก็ตบอลอเมริกัน ได้แสดงออกถึงการมีความคิดแบบเติบโต หรือ Growth Mindset ทุกครั้งที่ชู๊ตลูกบาสไปแล้วไม่เข้าห่วง แทนที่จะจับผิดหรือโทษเพื่อนร่วมทีม หรือคิดว่ามันเป็นเพราะพื้นสนามบาสเกตบอลไม่ดี ไมเคิลวิเคราะห์และฝึกชู๊ตลูกที่ตนเองพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้อมรับคำแนะนำจากคนอื่น เพื่อหาวิธีพัฒนาทักษะและเทคนิคการเล่นของตน ไมเคิลสิ้นสุดอาชีพการเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลมืออาชีพด้วยการเป็นผู้เล่นที่มีเทคนิคการยิงประตูที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการ เขาเชื่อมั่นว่าสามารถเปลี่ยนความพ่ายแพ้ให้เป็นชัยชนะได้ ตราบใดที่มีความพยายามมากพอ จิตใจที่แข็งแกร่งทรหด การฝึกซ้อมของไมเคิล จอร์แดนและผลการแข่งขันพิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ความพยายามไปต่อ สรุปบทเรียน และทำให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา เป็นปัจัยที่นำคนสู่เป้าหมายได้มากกว่าความสามารถที่มีอยู่เป็นทุนเดิม
อย่างไรก็ตาม กรอบความคิดของคนเปลี่ยนแปลงได้ คนที่มี Growth Mindset เมื่อประสบความสำเร็จแล้วยึดติดกับความสำเร็จ ชื่อเสียงที่ได้ก็อาจเปลี่ยนให้เป็นคนที่มี Fixed Mindset ได้ ดร.คารอล ได้ยกตัวอย่าง Chrysler Motors อันเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีชื่อเสียง ที่ ลี ไอเอคอกค่า (Lee Iacocca) ได้เข้ามารับตำแหน่ง CEO ในเวลาที่บริษัทกำลังขาดทุนอย่างหนัก อาจถึงขั้นล้มละลาย ลีบริหารด้วยสไตล์ตัดสินใจและแก้ปัญหาที่รวดเร็ว ให้คุณค่าแก่พนักงาน ทำให้กู้คืนสถานะบริษัทกลับมามีกำไรอีกครั้ง แต่หลังประสบความสำเร็จและเขียนหนังสือเป็นที่ยกย่องไปทั่วโลก พฤติกรรมของลีก็เปลี่ยนไป เขาเริ่มเสวยสุขบนเกียรติยศที่ได้รับ อวดความเหนือกว่า และสนใจเสริมภาพลักษณ์ของตัวเองมากกว่าสถานะในการแข่งขันในตลาดรถยนต์และผลกำไรของบริษัท ลีแสดง Fixed Mindset ออกมาอย่างชัดเจน ตัดสินทุกอย่างว่า “ดี” หรือ “ไม่ดี” พยายามทำตัวให้ฉลาดและมีความสามารถมากที่สุด สนใจแต่ว่าคนจะชื่นชมตนเองอย่างไร แทนที่จะหาวิธีปรับปรุงพัฒนาบริษัทให้ก้าวหน้า ในที่สุดเขาก็พาไครสเลอร์พลาดท่าอีกครั้ง
นอกจากนี้ ในการศึกษาวิจัยพบว่า กรอบความคิดแบบตายตัว (Fixed Mindset) ที่มีอยู่ในการบริหารงานบุคคลของบริษัทขนาดใหญ่ อย่างเช่น Enron และ McKinsey ต้องใช้เงินจำนวนมากในการเฟ้นหานักศึกษาที่มีความสามารถโดดเด่นในมหาวิทยาลัย ด้วยกรอบความคิดว่า ถ้าเลือกเฟ้นหาบัณฑิตที่มีความสามารถกว่าคนอื่น จะทำให้บริษัทเพิ่มประสิทธิภาพได้ทันที และเมื่อรับเข้ามาทำงาน พนักงานที่มีความสามารถโดดเด่นเหล่านี้จะถูกประเมินการทำงานจากผู้บังคับบัญชาอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง หากทำไม่ได้ตามเป้าก็ถูกคัดให้ออกไป ดร. คารอลพบว่า แนวทางการบริหารเช่นนี้สะท้อน Fixed Mindset ว่า คนที่ไม่สมบูรณ์แบบก็คือคนที่ไม่สมบูรณ์แบบ และไม่มีทางสมบูรณ์แบบขึ้นมาได้ จึงควรให้ออกไป ซึ่งไม่ได้ส่งผลดีในระยะยาวให้กับบริษัทในการรักษาคนดีไว้ได้นาน
อ้างอิง
- Carol S. Dweck, Ph.D., Mindset: The New Psychology of Success, Ballantine Books, December 26, 2007
- Why Do Mindsets Matter?,The Impact of a Growth Mindset, https://www.Mindsetworks.com/ science/Impact
- Maria Popowa, Fixed vs. Growth: The Two Basic Mindsets That Shape Our Lives, HTTPS:// WWW.BRAINPICKINGS.ORG/2014/01/29/CAROL-DWECK-MINDSET/