กลุ่มบริษัท อาร์แอลจี (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป) จัดงานประชุมวิชาการ RLG Symposium 2015 EF : Executive Functions ทักษะสมองเพื่อชีวิตที่สำเร็จ ร่วมกับ 5 หน่วยงานหลัก คือ ศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทยฯ และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยรวบรวมนักวิชาการด้านทักษะสมอง นักการศึกษาและผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กกว่า 500 คน นำเสนอแนวคิดและความรู้งานวิชาการด้านทักษะสมอง EF ณ ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
คุณสุภาวดี หาญเมธี ประธานสถาบันอาร์แอลจี กล่าวว่า “ศตวรรษที่ 21 คือ ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ซับซ้อน พลิกผันสูง รวมทั้งในเวลาอีกไม่กี่ปี ประเทศไทยก็จะก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุเต็มขั้น ดังนั้น คนรุ่นใหม่จะต้องเก่งขึ้น แกร่งขึ้น มี Productivity สูงกว่าคนรุ่นพ่อแม่อย่างน้อย 1 เท่า สามารถแก้ปัญหายากๆ และอยู่กับคนอื่นในโลกได้ดีขึ้น รวมทั้งต้องหาความสุขเป็น แต่ถ้าเรายังพัฒนาเด็กไปไม่ถูกทาง ก็เป็นการยากที่เด็กไทยของเราจะรับมือกับปัญหาในโลกสมัยใหม่ได้”
รศ.ดร.ยูซูเกะ โมริกูจิ นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสมองจากมหาวิทยาลัยการศึกษาโจเฮ็ทสึ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวถึง EF ไว้ว่า “เป็นกระบวนการในการคิด เพื่อกำกับควบคุมตนเองให้ไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ ช่วยให้บุคคลสามารถวางแผนดำเนินการและติดตามประเมินพฤติกรรมของตนเองได้เหมาะสม ยับยั้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และการมีทักษะ EF ในเด็กเล็กเป็นสิ่งที่บ่งชี้ความสำเร็จได้หลายอย่าง ทั้งความพร้อมในการเข้าเรียนระดับประถม ทำนายความสำเร็จในการเรียนช่วงมัธยม (ได้ดีกว่าไอคิว) ทำนายความสำเร็จในการเข้าสังคม การเคารพกติกาสังคม ไม่ทำผิดกฎหมาย รวมถึงการมีสุขภาพดีในช่วงวัยผู้ใหญ่ด้วย”
นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ จากกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า “ความรู้เรื่อง EF เป็นความรู้ที่ต่อยอด ทำให้เห็นว่า จากฐานความรู้เรื่องการพัฒนาเด็กแบบรอบด้าน ทั้ง ร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญาที่เป็นพื้นฐานสำคัญที่พ่อแม่และครูต้องยึดให้มั่นนั้น เราจำเป็นต้องพัฒนาทักษะสำคัญของสมองเพิ่มเติม เช่น ทักษะการยับยั้งชั่งใจ การยืดหยุ่นความคิด และการควบคุมอารมณ์ ซึ่งจะส่งผลต่อความสำเร็จในการจัดการชีวิตของเด็กในภายภาคหน้า ผู้ใหญ่จึงต้องเลี้ยงดูแล โดยส่งเสริมให้เด็กได้ใช้สมองส่วนคิด มีเหตุมีผลมากกว่าปล่อยให้เด็กให้สมองส่วนอยากที่จะทำสิ่งต่างๆ ตามอารมณ์ปรารถนาเท่านั้น”
นอกจากนี้ ดร.วรนาท รักสกุลไทย นักวิชาการด้านการอนุบาลศึกษา ให้ความคิดเห็นอย่างน่าสนใจว่า “การเรียนในระดับปฐมวัยจะต้องให้ความสำคัญกับการเล่นอย่างเป็นอิสระ ที่เด็กได้คิดวางแผนด้วยตนเอง ทั้งได้เล่นกับเพื่อน เล่นตามลำพัง ทั้งเล่นในห้องและออกไปเล่นกลางแจ้ง ให้เด็กได้ลงมือทำด้วยตัวเอง ที่สำคัญให้เด็กได้มีประสบการณ์ที่หลากหลาย เหล่านี้จะช่วยพัฒนาทักษะสมอง EF ที่จะช่วยให้เด็กมีการจดจำ มีคลังข้อมูลสะสมในสมองและสามารถหยิบมาใช้เมื่อจำเป็นได้ เด็กจะได้ฝึกทักษะสำคัญของการดำรงชิวตในอนาคต ที่จะทำให้อยู่กับคนอื่นได้และทำงานจนบรรลุ”
คุณสุภาวดี หาญเมธี กล่าวเพิ่มเติมว่า สังคมไทยควรส่งเสริมเรื่อง EF ทักษะเพื่อจัดการชิวิตให้สำเร็จอย่างจริงจัง ผ่านสื่อและช่องทางที่หลากหลายในการร่วมเผยแพร่ EF เพื่อให้ไปถึงยังกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะเว็ปไซต์ที่รวบรวมข้อมูล EF รวมถึงเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ของทักษะ EF เช่น www.rlg-ef.com เพื่อให้เด็กไทยเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเข้มแข็งและมีความสุขในโลกยุคใหม่
Reference : บันเทิง/สังคม-สตรี. (2 กันยายน 2558). อาร์แอลจีเปิด Thailand EF Partnership ผลักดันทักษะสมองเด็กปฐมวัย. บ้านเมือง, หน้า 24.
การศึกษา สาธารณสุข วัฒนธรรม. (3 กันยายน 2558). แนะทักษะสมองในเด็กเล็กช่วยยั้งการติดยาเมื่อเป็นวัยรุ่น. คมชัดลึก, หน้า 13.