Page 17 - Executive Functions ในเด็กวัย 13-18 ปี
P. 17
ท�ำอย่ำงไรให้ผู้คนในสังคมเรำมีควำมสำมำรถปรับเปลี่ยน
1. การคิดเชื่อมโยง ท�ำอย่ำงไรให้คนในสังคมเรำมีควำมสำมำรถ 2. การคิดใหม่ วิธีคิด ไม่ยึดติดกับวิธีคิดหรือกระบวนทัศน์แบบเก่ำๆ วิธีกำร
คิดเชื่อมโยงได้อย่ำงรอบด้ำน เก่ำๆ ที่แก้ปัญหำไม่ได้ แต่เลือกสรรสิ่งที่มีมำแต่เดิมที่ยังใช้ได้
น�ำมำปรับเข้ำกับควำมคิดจินตนำกำรและวิธีกำรแก้ปัญหำ
ใหม่ๆ
• สำมำรถคิดเชื่อมโยง เห็นความโยงใยของสรรพสิ่ง สำมำรถมองเห็นและ • สำมำรถเข้าใจสิ่งที่เคยท�ามาได้ลึกซึ้งขึ้น
เข้ำใจองค์รวมของปรำกฏกำรณ์และปัญหำ และลงมือท�ำงำนเชื่อมโยงเนื่องหนุนกัน • สำมำรถเข้าใจสิ่งที่จะท�าต่อไปได้ลึกซึ้งขึ้น
ผลักดันทั้งระบบ ไม่ต่ำงคนต่ำงท�ำ แยกส่วนใครส่วนมัน • สำมำรถท�ำควำมเข้ำใจและรู้ว่ำจะจัดการอย่างไรด้วยวิธีการใหม่
• สำมำรถเข้ำใจควำมเชื่อมโยงของการท�างานของสมอง 3 ส่วน คือสมอง กับเรื่องต่ำงๆ ในบริบทใหม่ของสังคมที่เปลี่ยนไป
ส่วนแกน สมองส่วนลิมบิก (ส่วนอำรมณ์) และสมองส่วนหน้ำว่ำมีผลก�ำหนด
พฤติกรรม คุณธรรม ที่น�ำพำไปสู่ชะตำกรรมของมนุษย์แต่ละคนและสังคมอย่ำงไร
• เข้ำใจและสำมำรถเชื่อมโยงรากเหง้าของตนกับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลง 3. การท�างาน ด้วยเหตุที่ปัญหำกำรพัฒนำมนุษย์เป็นปัญหำแบบองค์รวม
ไป เชื่อมโยงปัญญำญำณของตะวันตกและตะวันออกที่สั่งสมมำ น�ำมำปรับใช้อย่ำง หลายระนาบ ที่จะต้องปรับแก้มิติต่ำงๆ ไปพร้อมๆ กันไม่สำมำรถคิดและ
เหมำะสมทันกำรณ์ ในเวลาเดียวกัน ท�ำไปทีละอย่ำงๆ แบบเส้นตรง (linear thinking) ได้ หำก
• สำมำรถเชื่อมโยงองค์ความรู้แต่ละศำสตร์ แต่ละสำขำเข้ำแลกเปลี่ยน ต้องเป็นแบบองค์รวมที่ขยับเขยื้อนไปได้ทุกส่วนพร้อมๆ
และท�างานบูรณาการกันจนสำมำรถน�ำไปใช้ได้จริงทั้งในชีวิต กำรท�ำงำนพัฒนำเด็ก กันอย่ำงมีพลัง ทั้งกำรท�ำงำนลงลึกระดับบุคคล โรงเรียน
เยำวชนและกำรขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ชุมชน เขตกำรศึกษำ จังหวัด กระทรวง และผลักดันทิศทำง
กฎหมำย ยุทธศำสตร์และนโยบำยของประเทศ
กำรจัดกำรควำมท้ำทำยทั้งสำมได้อย่ำงเหมำะสมตั้งแต่กระบวนกำรคิดไปจนถึง
กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ผลักดันให้เกิดผล จึงจะสำมำรถน�ำควำมรู้เรื่องกำรพัฒนำ
ทักษะสมอง EF ไปพัฒนำเด็กและเยำวชนตำมเป้ำหมำยสูงสุดของกำรศึกษำ
นั่นคือกำรเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ได้อย่ำงแท้จริง
16 17