Page 32 - Executive Functions ในเด็กวัย 13-18 ปี
P. 32

ที่เป็นพื้นขององค์ประกอบในตัวเด็กบวกกับประสบกำรณ์ที่ท�ำแล้วมีควำมสุข                         เป็น โดยเฉพำะอย่ำงยิ่ง ครอบครัว และโรงเรียน ซึ่งเป็นสภำพแวดล้อมที่ส�ำคัญของ

                                      จะส่งเสริมให้เด็กชอบท�ำสิ่งนั้นซ�้ำๆ ประสบกำรณ์ใดที่เป็นทุกข์ก็จะหลีกเลี่ยง                  วัยรุ่น ผู้ใหญ่ที่ไม่เข้ำใจหรือผลักไสเขำให้เผชิญกับควำมว้ำวุ่นภำยในและปัญหำภำยนอก
                                      ประสบกำรณ์ที่ท�ำซ�้ำๆ ส่งผลให้วงจรเซลล์ประสำทส่วนนั้นแข็งแรง ประสบกำรณ์ใดที่                 ที่รุมเร้ำเข้ำมำเพียงล�ำพัง ในวัยที่เขำเองยังไม่แข็งแรงและมีประสบกำรณ์พอนี่เอง

                                      เบำบำงหรือไม่ได้ท�ำ วงจรเซลล์ประสำทที่ท�ำงำนในเรื่องนั้นจะหดหำยไป วงจรประสำท                 เป็นเหตุให้วัยรุ่นในสังคมไทยจ�ำนวนมำกมีพฤติกรรมที่เป็นปัญหำ
                                      ที่แข็งแรงและเหลืออยู่ในสมองไม่ว่ำจะเกิดจำกประสบกำรณ์ดีหรือเลวร้ำย จะท�ำงำน

                                      ไปภำยในสมอง ก่อรูป สะท้อนออกมำเป็นพฤติกรรม นิสัย บุคลิกภำพ ควำมถนัด ฯลฯ                          กำรเรียนรู้ถึงธรรมชำติ กลไกและสภำพกำรท�ำงำนภำยในคือ “สมอง” และ “พัฒนำกำร”
                                                                                                                                   ด้ำนต่ำงๆ ของวัยรุ่น จะช่วยให้เรำเข้ำใจว่ำพฤติกรรมที่วัยรุ่นแสดงออกไม่ใช่สิ่งที่เขำ “อยำก”

                                          ควำมเข้ำใจเรื่องกำรตัดแต่งกิ่งประสำท ตำมธรรมชำติของสมองที่ทิ้งสิ่งที่                    เป็น แต่มีองค์ประกอบทั้งภำยในสมองและภำยนอกขับดันให้เขำเป็นเช่นนั้น
                                      ไม่ค่อยพบเจอหรือไม่มีประสบกำรณ์ซ�้ำออกไป ท�ำให้รู้ว่ำหำกเรำต้องกำรให้วัยรุ่น

                                      เป็นอย่ำงไร เชี่ยวชำญเรื่องอะไร ต้องส่งมอบประสบกำรณ์ที่ส่งเสริมให้เขำเป็นเช่นนั้น                2. กระบวนกำรเพิ่มปลอกไมอิลิน (myelination)  สมองวัยรุ่นมีกระบวนกำรเพิ่ม
                                      มำกพอ เรำไม่สำมำรถคำดหวังให้วัยรุ่นเป็นอย่ำงที่เรำต้องกำรได้หำกเรำไม่ได้ให้เขำ               ปลอกไมอิลิน คือกระบวนกำรเพิ่มเยื่อหุ้มเซลล์ประสำท ช่วยให้สื่อน�ำสัญญำณประสำทได้เร็ว

                                      ได้สัมผัส ได้เรียนรู้หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมอย่ำงที่เรำต้องกำรนั้นบ่อยๆ                        ขึ้น 3,000 เท่ำ (ควำมยำวเฉลี่ยของเส้นใยประสำทที่มีเยื่อไมอิลินหุ้ม = 150,000-180,000
                                                                                                                                   กิโลเมตร) วัยรุ่นจึงเป็นช่วงชีวิตที่ learning curve สูงเป็นพลวัตร เรียนรู้ได้เร็ว ตอบสนอง

                                          ปกติเมื่อคนเข้ำวัยรุ่นมักถูกคำดหวังว่ำ “โต” พอแล้ว ควรจะ “รู้” และท�ำ                    ฉับไว สมองส่วนฮิบโปแคมปัส (Hippocampus)
                                      อะไรอย่ำงที่พ่อแม่หรือสังคมคำดหวัง ซึ่งในวิถีชีวิตของสังคมในอดีต ครอบครัวไทย                 อันเป็นศูนย์กลำงกำรเรียนรู้ตอบสนองประมวล

                                      เป็นครอบครัวขยำย ใกล้ชิดกัน ชุมชนมีควำมสัมพันธ์แน่นแฟ้น และกำรเปลี่ยนแปลง                    ข้อมูลจำกประสำทสัมผัสทั้งหู ตำ จมูก ลิ้นสัมผัส  เดนไดรท์ (Dendrite)
                                      ของสังคมเป็นไปอย่ำงช้ำๆ วัยรุ่นไทยในสังคมเช่นนั้นได้มีโอกำส “เลียนแบบ” และ                   ได้ยอดเยี่ยม เชื่อมโยงไปกับ brain reward

                                      “เรียนรู้” และถูกสั่งสอนซ�้ำๆ ตำมสภำพแวดล้อมรอบตัว                                           system ท�ำให้กล้ำลองถูกลองผิด สนุกกับกำร                                               ไซแนปส์
                                                                                                                                   เอำชนะ หำกสนใจสิ่งใดจะสำมำรถคลั่งไคล้ เรียน                                          (Synapses)

                                           แต่ปัจจุบันสังคมเปลี่ยนไป คนในครอบครัวถูกแยกห่ำงหรือแม้แต่ขำดออก                        รู้ได้เร็วกว่ำวัยอื่นๆ มีควำมตื่นตัวในสภำพแวดล้อม
                                      จำกกัน เด็กในวัยเรียนถูกสอนแต่เรื่องรำวเนื้อหำที่จะเอำไปสอบเพื่อเรียนสูงขึ้นไป               มำกกว่ำ รวมทั้งมีนิสัย “ใจร้อน” มำกกว่ำวัยอื่นๆ

                                      เรื่อยๆ ทักษะชีวิตและทักษะหลำยอย่ำงไม่มีกำรสอนในห้องเรียนหรือสอน
                                      ในลักษณะท่องจ�ำ ไม่ได้ลงมือปฏิบัติ นักเรียนแค่นั่งฟัง จด จ�ำ และท�ำควำมเข้ำใจ                     กระบวนกำรที่เกิดขึ้นภำยในสมองนี้จึงเป็นทั้ง                               เยื่อไขมัน

                                      เฉพำะแค่เนื้อหำวิชำที่ครูสอน แต่ผู้ใหญ่และสังคมรอบข้ำงกลับคำดหวังให้เขำ                      โอกำสและควำมเสี่ยง                                                            (Myelin)
                                      “เป็น” ในสิ่งที่มีประสบกำรณ์น้อยหรือไม่เคยมีประสบกำรณ์หรือ “เรียนรู้” มำก่อน

                                      เพรำะคิดว่ำโตแล้ว และเมื่อเขำไม่เป็นไปตำมควำมคำดหวัง ปัญหำพฤติกรรม                             prefrontal cortex ซึ่งใช้คิดวิเครำะห์วำงแผน  www.4mylearn.org
                                      และควำมสัมพันธ์ก็ตำมมำมำกมำย กลำยเป็นว่ำในระหว่ำงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะ                     และตัดสินใจด้วยวิจำรณญำณนั้นพัฒนำเต็มที่เมื่อ

                                      ก้ำวข้ำมไปสู่กำรเป็นผู้ใหญ่ วัยรุ่นกลับไม่ได้รับกำรเกื้อกูลจำกสังคมอย่ำงที่ควรจะ             อำยุ 25 ปี





            32                                                                                                                                                                                                                    33
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37